เริ่มตั้งครรภ์ มีอาการเริ่มแรกอย่างไร
- การขาดประจำเดือน ถ้าคุณเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ อาการปกติที่บ่งบอกได้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์คือ ประจำเดือนไม่มาภายหลังปฏิสนธิได้ 2 สัปดาห์ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีประจำเดือนมา ไม่สม่ำเสมอ อาจเป็นสาเหตุอื่นก็ได้ที่ทำให้ประจำเดือนคุณขาดหายไป เช่นมีความ เครียดจากการทำงาน, มีความวิตกกังวลมาก หรือไม่สบาย ก็ไม่แน่ว่าคุณจะตั้งครรภ์ ในบางรายที่ตั้งครรภ์แล้ว อาจมีเลือดออกเล็กน้อยทางช่องคลอดในช่วงเวลาที่ครบรอบเดือน
- เจ็บ ตึง คัดเต้านม ขนาดของเต้านมจะเริ่มขยายขึ้น หัวนมเจ็บและไวต่อสิ่งสัมผัส มีเส้นเลือดดำสีเขียวๆ ปรากฏขึ้นที่บริเวณผิวหนังรอบเต้านม หัวนมมีสีคล้ำขึ้นและตั้งชู
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น ฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์มีผลทำให้เลือดมาคั่งในเชิงกรานมาก เพื่อไปหล่อเลี้ยง ตัวอ่อนมากขึ้น ระบบปัสสาวะที่ต่อเนื่องถึงกันจึงได้รับผลกระทบไปด้วย กระเพาะปัสสาวะ จึงระคายเคืองและบีบตัวบ่อยขึ้น ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย รวมทั้งต้องลุกมาเข้าห้องน้ำใน ตอนกลางคืนบ่อยๆ ด้วย
- ท้องผูกกว่าปกติ
- มีอาการตกขาวเล็กน้อย มีมูกขาวๆ ออกมาจากช่องคลอด โดยไม่มีอาการแสบ หรือคันบริเวณช่องคลอดแต่อย่างใด
- รู้สึกเหนื่อยง่าย อยากหลับตลอดเวลา นอกจากตอนเย็นหลังเลิกงานแล้วยังเหนื่อยล้าในตอนกลางวันอีกด้วย อาการเช่นนี้ดีสำหรับคุณแม่ เพราะเท่ากับช่วยลดกิจกรรมต่างๆ ลงทั้งที่บ้านและที่ทำงาน จะได้พบปะเจอะเจอผู้คนน้อยลง หรือไม่ค่อยอยากเดินทางไปไหนมาไหน ช่วยให้คุณแม่ได้รับเชื้อโรคและสารพิษจาก สิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษน้อยลง
- รู้สึกขมๆ เฝื่อนๆ มีรสชาติแปลกๆ ในปาก
- รู้สึกเหม็น ทนไม่ได้กับบางสิ่งบางอย่าง เช่น ควันบุหรี่, เหล้า, กาแฟ, อาหารที่มีไขมัน, กลิ่นเนื้อสด, ฯลฯ ผลของการตั้งครรภ์ทำให้จมูกคุณแม่ไว และตอบสนองต่อกลิ่นต่างๆ มากขึ้น บางคนได้กลิ่นอาหารที่เคยชอบก็อยากอาเจียน, บางคนแพ้ กลิ่นน้ำหอมที่ตัวเองเคยใช้เป็นประจำ, บางคนไปจ่ายตลาดเดินผ่านร้านขายเนื้อวัวสด, เนื้อหมู ไม่ได้เลย แค่เห็นก็ทนไม่ไหวแล้ว, บางคนแค่เปิดตู้เย็นเจอกลิ่นอาหารในตู้เย็นก็รู้สึกแย่ บางรายก็แพ้กระทั่งกลิ่นของสามีตัวเอง!
- มีอาการแพ้ท้อง เป็นอาการที่พบบ่อยมากจนเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อยาก อาเจียนหลังตื่นนอนในตอนเช้า บางรายอาจเป็นในช่วงเย็นๆ บางรายมีอาการต่อเนื่องกัน ตลอดทั้งวัน (แย่หน่อย) โดยเฉพาะตอนที่ท้องว่าง บางทีหิวแต่กินไม่ได้มาก ทำให้เกิด อาการวิงเวียนจะเป็นลม เนื่องจากมีน้ำตาลในเลือดต่ำ
- กินอาหารไม่อร่อย หรืออยากกินของแปลกๆ ฮอร์โมนที่เพิ่มระดับขึ้นในช่วงต้นของการเริ่มตั้งครรภ์ ทำให้การรับรู้รสชาติของคุณแม่เปลี่ยน แปลงไป ทำให้รู้สึกกินไม่อร่อย ทั้งที่เป็นของที่เคยชอบมาก่อน บางทีอยากกินของแปลกๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมจึงอยากกิน
- มีอารมณ์อ่อนไหวหรือแปรปรวนง่าย ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลง บางครั้งได้ยิน ได้ฟังเรื่องเศร้าๆ ก็ร้องไห้ น้ำตาซึม หรือปล่อยโฮ ดูหนังเศร้าก็ร้องไห้เสียใจ โดยที่เมื่อก่อนไม่ใช่คนแบบนี้ ผู้หญิงบางรายอาจไม่มีอาการดังกล่าวนี้เลย แต่ก็ “ทราบ” ว่าตนเองตั้งครรภ์ ก็เป็นได้เช่นกัน
ตรวจการตั้งครรภ์
เมื่อสงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์ คุณควรตรวจด้วยตนเองหรือไปรับการตรวจจากแพทย์เพื่อยืนยัน ว่ากำลังตั้งครรภ์ให้ชัดเจน ซึ่งมีวิธีดังนี้
- โดยการตรวจปัสสาวะ
คุณอาจตรวจด้วยตนเองก็ได้ โดยซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์สำเร็จรูป ซึ่งมีขายตามร้านขายยาทั่วไป ชุดทดสอบนี้ประกอบด้วยสารละลายเคมี ซึ่งนำมาผสมกับน้ำปัสสาวะ 2-3 หยด แล้วเปรียบเทียบดูสีที่ เปลี่ยนไป เป็นการบอกว่าตั้งครรภ์หรือไม่ หากทำตามขั้นตอนอย่างถูกวิธี จะให้ผลที่ค่อนข้างน่า เชื่อถือ 90% การทดสอบเริ่มทำได้โดยการนำน้ำปัสสาวะของแรกที่ประจำเดือนไม่มาเป็นต้นไป ซึ่งอยู่ในระยะ 2 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิมาทดสอบ ผลการทดสอบที่บอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์มัก ถูกต้องแม่นยำ ส่วนผลที่บอกว่าคุณไม่ตั้งครรภ์มักเชื่อถือได้น้อยกว่า ฉะนั้นคุณควรรออีก 1 สัปดาห์แล้วจึงทำการทดสอบอีกครั้ง หรือไปพบแพทย์เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ - การตรวจภายใน
ถ้าประจำเดือนขาดเกิน 1-2 เดือนแล้ว แพทย์อาจใช้การตรวจภายในเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ โดยช่องคลอดและปากมดลูกจะมีสีม่วงคล้ำ เพราะมีเลือดมาหล่อเลี้ยงจำนวนมาก และมดลูกโตจน คลำได้ชัดเจน การตรวจภายในยังช่วยสำรวจความผิดปกติว่ามีก้อนเนื้องอกที่มดลูกหรือรังไข่ได้อีกด้วย