ข้อห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ มีอะไรบ้างที่ต้องระวัง ไปดูกัน

ข้อห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เป็นผู้หญิงก็ต้องอยากสวยในทุก ๆ เวลาใช่ไหมคะ ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนตั้งครรภ์ ก็แหม ช่วงเวลานั้น นอกจากรูปร่าง ผิวพรรณ ของเรามันจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แน่หละ คุณแม่หลาย ๆ คนก็อยากจะทำตัวให้ดูดีเสมอ แม้จะอุ้ยอ้ายก็ตามเถอะ แต่คุณแม่ ๆ ทั้งหลายค่ะ ตอนที่เราตั้งครรภ์อยู่เนี่ย มีวิธีการเสริมความงามหลายอย่างที่ไม่เหมาะสมค่ะ ข้อห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย ขัดผิว แน่ล่ะค่ะ คุณแม่บางคนผิวดำคล้ำหมองเวลาตั้งครรภ์ ก็เพราะฮอร์โมนมันเปลี่ยนไป แต่เราก็ไม่ควรจะขัดเพื่อหวังจะให้มันขาวผ่องเป็นยองใยเหมือนเก่าหรอกนะคะ เพราะการขัดผิวก็ต้องใช้สารเคมีเหมือนกัน อาจจะก่อปัญหาให้คุณแม่ได้ไม่ต่างจากสารเคมีจากการย้อมผม หรอกค่ะ เบบี้เฟซ ขนาดคนที่ไม่ตั้งครรภ์ เขายังไม่แนะนำให้ทำเลยนะคะ แล้วจะมานับประสาอะไรกับคนท้องล่ะ เพราะเบบี้เฟซเนี่ย มีผลข้างเคียงแยะ เพราะใช้สารเคมีแรงมากัดให้ผิวบางลง อาจจะทำให้ผิวอักเสบ และผิวก็จะไม่แข็งแรงเหมือนเดิมด้วยค่ะ ทำเล็บ ข้อห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เคยมีงานวิจัยว่าสารเคมีในยาทาเล็บเนี่ย ส่งผลต่อพัฒนาการของลูกในท้อง และแม่กระทั่งเด็กอ่อนเลยนะคะ นอกจากนั้น การทำเล็บเนี่ย ยังต้องระมัดระวังเรื่องของความสะอาดมาก ๆ คนท้องร่างกายจะอ่อนไหวง่าย ถ้าเลี่ยงได้ ก็ควรจะเลี่ยงค่ะ นวดตัว การนวดตัว สามารถทำได้บ้างถ้าจำเป็นนะคะ […]
การใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์ อย่างระวัง ไม่ให้กระทบกับลูกน้อย

การใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์ อย่างระวัง การทานยา เป็นเรื่องหนึ่งที่แม่ตั้งครรภ์ต้องให้ความระมัดระวัง จะทานยาชนิดใด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน แต่บางครั้ง ยาบางชนิด ถ้ามัวแต่รอปรึกษาแพทย์ ก็คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ฉบับนี้จึงขอตอบที่คุณแม่ถามมาว่า ยาแก้ไอ ยาธาตุน้ำแดง ยาพาราฯ และยาสมุนไพร สามารถทานได้หรือไม่ โดยปกติยาจะขึ้นทะเบียนกับ อย.ซึ่งจะมีคำเตือนให้คุณแม่ทราบอยู่แล้วในฉลากข้างขวด ว่าการใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์ ได้หรือไม่ได้ ดังนั้น ในส่วนของยาที่ไม่อันตราย ถ้าไม่มีคำเตือนหรือข้อห้ามอื่นใด ก็สามารถทานได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ เพื่อให้คุณแม่หายข้องใจ เราได้แยกแยะรายละเอียดเรื่องยาเหล่านี้ไว้ ดังนี้ค่ะ การใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์ ยาธาตุน้ำแดง ยาธาตุน้ำแดง รวมไปถึงยาอื่นๆ ในเวลาที่คุณแม่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ รู้สึกแน่นจนอึดอัด สามารถทานได้ค่ะแต่ควรทานในปริมาณที่ระบุไว้ข้างขวด ทานให้รู้สึกสบายท้องก็พอ แต่อย่าทานบ่อยนัก เพราะยาทั้งสองที่กล่าวมานี้ ไม่ใช่ยารักษาโรคกระเพาะ เป็นเพียงยารักษาบำบัดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ทางที่ดีควรหันมาปรับปรุงการทานอาหารของคุณแม่ดีกว่าค่ะ คืออย่าทานให้อิ่มมาก ทานมื้อน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง พยายามเคี้ยวให้ละเอียดเพื่อให้อาหารย่อยง่าย และไม่ทานของมันที่ทำให้ท้องอืดง่าย ที่สำคัญ ให้เน้นทานอาหารประเภทกากใยให้มากๆ อย่างพวกผัก ผลไม้ จะได้ช่วยระบายท้องได้ดีขึ้น การใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์ ยาแก้ไอ จากที่ทราบมา […]
การตรวจเต้านมสำหรับสตรีตั้งครรภ์

การตรวจเต้านมสำหรับสตรีตั้งครรภ์ เต้านมคลำดูขนาดของต่อมน้ำนมและเพื่อตรวจหาก้อนผิดปกติ หัวนม ขนาดเหมาะสมไม่เล็กหรือใหญ่เกินไปสำหรับลูก ไม่แตกหรือเป็นรอยแยกเพราะอาจเกิดการอักเสบทำให้ติดเชื้อได้ ไม่แบนหรือบุ๋มลงไปเด็กจะจับหัวนมไม่ติดดูดนมไม่ได้ คุณแม่สามารถตรวจได้โดยการทำWaller’s Test Waller’s Testการทดสอบโดยการเลียนลักษณะการดูดตามธรรมชาติของเด็ก วางมือบนเต้านมให้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้วางราบไปกับผิวหนังนิ้วทั้งสองอยู่ชิดหัวนม กดนิ้วทั้งสองเข้าหากันถ้าหัวนมแบนราบเกินไปหัวนมจะผลุบลงไประหว่างนิ้วมือทั้งสองในขณะที่บีบเข้าหากันในกรณีที่พบ การตรวจเต้านม การทำ Hoffman’s Maneuver โดยใช้นิ้วหัวแม่มือของมือทั้งสองแตะที่รอยต่อระหว่างหัวนมกับลานหัวนมในด้านตรงข้ามกันของหัวนมข้างนั้น กดนิ้วทั้งสองและรูดแยกห่างกันไปทางข้างๆและตรงๆ ควรทำซ้ำกันเช่นนี้ในทิศทางต่างกันโดยรอบสัก 2-3 ครั้งหัวนมจะตั้งขึ้นมาได้ ใช้นิ้วมือจับที่ขั้วหัวนมที่ยื่นออกมานั้นดึงออกตรงๆเบาๆสัก 2-3 ครั้ง การตรวจเต้านม การทำHoffman’s Maneuver ต้องใช้ระยะเวลานานมากกว่าหัวนมจะยืดยาวออกมาจนพอเพียงที่เด็กจะดูดนมได้ ตรวจเต้านม ควรดูลักษณะทั่วไปตลอดจนคลำดูขนาดของต่อมน้ำนมว่าจะมีปริมาณเพียงพอที่จะผลิตน้ำนมสำหรับเลี้ยงดูบุตรหรือไม่ ขนาดเต้านมที่ใหญ่โตอาจมีปริมาณต่อมน้ำนมเพียงเล็กน้อยที่เหลือเป็นเพียงแต่ไขมันก็ได้นอกจากนี้แล้วควรตรวจหาก้อนผิดปกติที่บริเวณนี้ด้วย หัวนม ดูขนาด หัวนมที่เล็กเกินไปอาจทำให้เด็กดูดไม่ติดหรือใหญ่โตเกินไปจนคับปากเด็กดูดไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการให้นมลูกได้ หัวนมแตกหรือเป็นรอยแยก (Cracked หรือfissure) ต้องรักษาให้หายก่อนเด็กดูดนมเพราะจะเป็นทางนำเชื้อโรคเข้าไปทำให้เกิดการอักเสบของเต้านมได้ (ควรปรึกษาแพทย์ที่ท่านฝากครรภ์) หัวนมที่แบนหรือบุ๋มลงไป (flat หรือinverted nipple) พวกนี้เด็กจะดูดนมไม่ได้เพราะปากเด็กจะจับหัวนมไม่ติดเราอาจทดลองดูได้ว่าปากเด็กจับหัวนมได้หรือไม่โดยทำ การตรวจเต้านม Waller’s Test Waller’s Test การวางมือบนเต้านมให้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้วางราบไปกับผิวหนังและให้นิ้วทั้งสองนั้นอยู่ชิดหัวนมตรงรอยต่อระหว่างหัวนมและลานหัวนมกดนิ้วทั้งสองเข้าหากันเช่นนี้เป็นการเลียนลักษณะของการดูดนมตามธรรมชาติของเด็กถ้าหาหัวนมนี้เด็กพอจะดูดได้นิ้วมือทั้งสองข้างจะจับหัวนมไม่ติดแต่ถ้าหัวนมแบนราบเกินไปหรือบุ๋มเกินไปจนเด็กไม่สามารถจะดูดได้หัวนมจะผลุบลงไประหว่างนิ้วมือทั้งสองในขณะผู้ตรวจบีบเข้าหากัน การตรวจเต้านม Hoffman’s Maneuver ในกรณีที่มีความผิดปกติของหัวนมแม่เช่นนี้และเด็กไม่สามารถดูดได้ถ้าหากได้ตรวจพบก่อนการคลอดเป็นระยะเวลานานคือผู้ที่มาฝากครรภ์ในระยะแรกเริ่มของการตั้งครรภ์ให้แม่หัดทำHoffman’s Maneuver […]
เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีวิธีดูแลน้ำหนักคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร

เมื่อเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ คุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวตั้งครรภ์ หรือกำลังตั้งครรภ์อยู่ ถ้าหมอตรวจพบว่าเป็นเบาหวานก็ไม่ต้องตกใจ ลูกในครรภ์จะเติบโตได้สมบูรณ์ถ้ารู้รักษาและดูแลตนเอง ทั้งการทานอาหารให้พอเหมาะ เมื่อเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ น้ำหนักตัวของคุณอาจจะขึ้นมากมายและมีผลทำให้ลูกในครรภ์โตเร็ว ตัวจะใหญ่มาก ซึ่งไม่เป็นผลดี เพราะนอกจากจะทำให้คลอดออกมายากลำบาก อันเนื่องจากปัญหาติดไหล่ คลอดไม่ออก อาจต้องช่วยฝ่าตัดคลอดออก หลังคลอดลูก อาจจะประสบกับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และอาจทำให้ชักได้ วิธีดูแลน้ำหนักเมื่อเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ วิธีง่ายๆ ควรดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้ขึ้นเร็วกว่าเกณฑ์ที่ได้กล่าวมาก่อนแล้ว พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล รวมทั้งอาหารที่เพิ่มน้ำหนักเร็ว เช่น อาหารที่มีไขมันปนมาก เช่น ไก่ทอด ขาหมู ข้าวมันไก่ และพิซซ่า ในกรณีที่น้ำหนักตัวของคุณเกินกว่าปกติอยู่แล้ว ควรจำกัดอาหารจำพวกแป้งหรือข้าวด้วย นอกเหนือจากการจำกัดอาหารมันๆ และอาหารหวานๆ อาหารที่เหมาะสมสำหรับคนที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และอ้วนมากขณะมีครรภ์ จึงเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง โดยไม่ผ่านการทอด โดยใช้การนึ่งแทน เช่นปลานึ่ง ไก่นึ่งและหมูนึ่ง เป็นต้น และทานผักหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผักใบเขียวเป็นประจำทุกวัน เมื่อทานอาหารเช่นนี้ก็จะสามารถทานผลไม้ได้อีก แต่ทานไม่ต้องมากและที่สำคัญต้องไปหาหมอเป็นระยะๆ เพื่อให้หมอตรวจระดับน้ำตาลในเลือด หรืออาจจะต้องอยู่โรงพยาบาลเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเพราะไม่เช่นนั้นจะส่งผลเสียต่อลูกในครรภ์ได้ และที่สำคัญหมอต้องตรวจโดยอัลตราซาวด์ เพื่อดูลูกในครรภ์เป็นระยะๆ ทั้งนี้แล้วแต่ความรุนแรงของเบาหวานขณะตั้งครรภ์ที่เป็นว่ามากน้อยแค่ไหน
อาการปวดหลังขณะตั้งครรภ์ เคล็ดลับแก้ปวดหลังมาฝากแม่ๆ กันค่ะ

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์หลายๆ คนคงประสบปัญหาเรื่องอาการปวดหลังกันค่อนข้างเยอะ วันนี้ทาง Momandbabyth จึงนำเคล็ดลับสำหรับแก้อาการปวดหลังขณะตั้งครรภ์มาฝากค่ะ ปรับวิธีการนั่ง หากมีอาการปวดหลังขณะตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการนั่งหลังงอ เพราะจะทำให้อาการปวดเป็นหนักขึ้นกว่าเดิม หากนั่งไม่ถนัดอาจจะใช้หมอนหนุนช่วย และฝึกท่านั่งให้ถูกต้อง นั่งหลังตรงและเอนพิงพนักเก้าอี้เล็กน้อยและควรมีเก้าอี้เตี้ยๆ รองรับเท้า ปรับวิธีการนอน การนอนควรตะแคงแทนการนอนหงาย และหาหมอนสำหรับหนุนระหว่างเข่าไว้ด้วย เพื่อให้การนอนอยู่ในท่าที่ถูกต้อง และในขณะที่ต้องลุกจากที่นอน ให้ใช้มือทั้งสองข้างพยุงตัวเอาไว้ก่อนแล้วดันท้องขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเกร็งตรงกล้ามเนื้อหลัง และป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหลังขณะตั้งครรภ์ได้ หลีกเลี่ยงการยกของหนัก การยกของหนักจะทำให้กล้ามเนื้อตรงบริเวณหลังและหน้าท้องเกิดอาการเกร็ง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง หากมีความจำเป็นต้องยกของจริงๆ ให้ย่อเข่าลงเล็กน้อยก่อนที่จะยก ห้ามก้มแล้วยกโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตรงหน้าท้องเกร็งมากเกินไป ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหลังขณะตั้งครรภ์ได้เช่นกัน โดยการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคนท้อง เช่น การเล่นโยคะท่าเบาๆ การว่ายน้ำ หรือการเดินเบาๆ ที่ไม่ต้องหักโหมร่างกายมากเกินไป จะช่วยให้ไม่เกิดอาการปวดหลัง และทำให้ร่างกายของคุณแม่แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา การนวดและการประคบ การนวดแบบผ่อนคลายสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้ เพียงแต่น้ำมันที่ใช้สำหรับนวดแบบทั่วไปอาจไม่เหมาะสำหรับหญิงมีครรภ์ ดังนั้น ก่อนนวดควรขอคำแนะนำจากสูติแพทย์เพื่อความปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่ายาที่ใช้จะไม่กระทบกับทารกที่อยู่ในครรภ์หรือตัวของคุณแม่เอง อีกทั้งการประคบร้อนหรือประคบเย็นก็ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ เลือกรองเท้าที่สวมใส่สบาย หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงมากเกินไป เพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและความปลอดภัยขณะเดิน ใช้กางเกงพยุงครรภ์ ยิ่งคุณแม่มีอายุครรภ์ที่มากขึ้น ก็ต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มีอาการปวดหลังขณะตั้งครรภ์ ดังนั้นการใช้การเกงพยุงครรภ์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องแบกรับน้ำหนักหน้าท้องมากเกินไป คุณแม่ลองนำวิธีดังกล่าวไปปรับใช้ดูนะคะ รับรองว่าจะบรรเทาและช่วยอาการปวดหลังที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ
น้ำหนักมากขณะตั้งครรภ์หรือเปล่าคะ?? เช็คอย่างไรมาดูกัน

น้ำหนักมากขณะตั้งครรภ์หรือเปล่าคะ?? เรื่องน้ำหนักตัวของคุณแม่ยามตั้งครรภ์ เป็นเรื่องที่สร้างความลำบากใจและเป็นกังวลสำหรับคุณแม่เป็นอย่างมาก บ้างก็กลัวว่าถ้ามัวแต่ห่วงเรื่องน้ำหนัก แล้วไม่ทานอะไรเลยลูกก็จะไม่แข็งแรง เลยถือเป็นโอกาสที่ดีในการอ้างที่จะรับประทานทุกอย่างเพื่อลูก Momandbabyth ก็เลยมีเกณฑ์ในการสังเกตน้ำหนักตัวของคุณแม่มาฝาก เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลแห่งความสุขอย่างนี้ อย่าถือโอกาสปาร์ติ้ซะจนลืมระวังเรื่องน้ำหนักนะคะ โดยปกติแล้วน้ำหนักมากขณะตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้น 3 – 5 กิโลกรัม ในไตรมาสแรก และจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยที่สุด 7 กิโลกรัม และไม่เกิน 14.5 กิโลกรัมจากน้ำหนักตัวปกติก่อนตั้งครรภ์ในไตรมาส 2 แล้วก็จะเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสสุดท้ายอาทิตย์ละเกือบครึ่งกิโลกรัม สัดส่วนของน้ำหนักมากขณะตั้งครรภ์แบ่งเป็น น้ำหนักตัวของทารก 3.5 – 4 กิโลกรัม น้ำคร่ำ 1 กิโลกรัม รก 0.6 – 1 กิโลกรัม เนื้อเยื่อเต้านม 0.6 – 1 กิโลกรัม ปริมาณเลือดในร่างกาย 1.5 กิโลกรัม กล้ามเนื้อมดลูก 1 – 1.2 กิโลกรัม น้ำ 2 กิโลกรัม […]
อาหารระหว่างตั้งครรภ์ที่แม่ท้อง ไม่ควรมองข้าม

อาหารระหว่างตั้งครรภ์ที่แม่ท้อง ไม่ควรมองข้าม วันนี้ Momandbabyth รวมอาหารคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ควรบริโภคทั้งในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด เพื่อให้สารอาหารนั้นครบถ้วนไปถึงลูกน้อยค่ะ อาหารระหว่างตั้งครรภ์ บร็อกโคลี นอกจากจะอร่อยแล้ว บร็อกโคลียังเป็นผักที่ให้วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก ซึ่งล้วนมีประโยชน์กับร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนั้น ยังมีกากใยช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่ปรุงให้สุกมากเกินไป เพราะความร้อนจะทำให้คุณค่าวิตามินต่าง ๆ จะหายไปหมด อาหารระหว่างตั้งครรภ์ นม นมเป็นแหล่งโปรตีนที่อุดมแคลเซียม ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติโดดเด่นของอาหารชนิดนี้ เพราะร่างกายของผู้หญิงเรา ต้องการแคลเซียมไปใช้มากกว่าผู้ชายในการดูแลกระดูกให้แข็งแรง (โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ ช่วงให้นมแม่ หลังวัยหมดประจำเดือน) และเพื่อไม่เกิดปัญหากระดูกพรุนในภายหลัง จึงมีคำแนะนำให้ผู้หญิงดื่มนมเป็นประจำวันละ 2 แก้ว (เลือกแบบจืดชนิด Low Fat) ทั้งนี้ก็เพื่อกระดูกที่แข็งแรงนั่นเองค่ะ อาหารระหว่างตั้งครรภ์ โยเกิร์ต นอกจากเป็นอาหารในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนมที่ให้แคลเซียมแล้ว ในโยเกิร์ต ยังมีจุลินทรีย์ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรา ทำงานอย่างสมบูรณ์ขึ้นด้วย แต่ที่สำคัญคือ จะต้องเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ที่ไม่เติมผลไม้เชื่อมหรือน้ำตาลลงไปนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ความหวานยังไปทำลายจุลินทรีย์เสียหมด คุณค่าที่ต้องการเลยหายวับไปอย่างน่าเสียดายค่ะ อาหารระหว่างตั้งครรภ์ เต้าหู้ อาหารระหว่างตั้งครรภ์ เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญจากพืช จึงมีไขมันต่ำแถมแคลเซียมสูง ราคาก็ไม่แพง กินแล้วดีกับระบบย่อยอาหาร […]
วิธีกระตุ้นลูกน้อยในครรภ์ ทำอย่างไร คุณแม่สามารถทำตามได้ทันที

คุณแม่ที่เตรียมตัวตั้งครรภ์เคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมเด็กแต่ละคนเกิดมามีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน เด็กบางคนอารมณ์ดี เลี้ยงง่าย ไม่โยเย ขณะที่เด็กบางคนเลี้ยงยากเหลือเกิน เรื่องนี้ เราคงต้องย้อนกลับไปหาคำตอบกันตั้งแต่แรกเริ่มที่คุณแม่ตั้งครรภ์ กันเลยทีเดียวค่ะ บรรทัดต่อจากนี้ไป จะเป็นวิธีการกระตุ้นลูกในครรภ์พัฒนาการด้านอารมณ์ และจิตใจของลูกน้อยในครรภ์อย่างง่าย ๆ ที่คุณแม่สามารถทำได้ทันทีค่ะ กระตุ้นลูกในครรภ์ คิดบวกไว้ก่อน การ พยายามมองโลกในแง่บวก นอกจากจะช่วยให้คุณแม่สามารถจัดสมดุลทางอารมณ์ของตัวเองได้ดีแล้ว ยังช่วยสร้างความรู้สึกดี ๆ ในการเกิดและมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ด้วย ลองนึกดูสิคะ ถ้าตลอดเวลาที่อยู่ในท้องแม่ ลูกรับรู้แต่อารมณ์หงุดหงิด หดหู่ หรือไม่ได้ดั่งใจของแม่ตลอดเวลา ร่างกายที่ตึงเครียดจากอารมณ์ที่ไม่สงบ ย่อมส่งสัญญาณไปถึงลูกน้อยได้ ดังนั้น การที่คุณแม่มองโลกในแง่ดี จิตใจผ่องใส พูดคุยถึงแต่เรื่องดี ๆ จึงเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้ลูกรับรู้แต่เรื่องดี ๆ และอยากจะเกิดมาใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มากขึ้นค่ะ กระตุ้นลูกในครรภ์ ไม่เครียด ความ เครียดของแม่ส่งผลต่อลูกในครรภ์โดยตรง เพราะนอกจากความเครียดจะทำให้ลูกคลอดออกมาเป็นเด็กขี้แย โยเย และเลี้ยงยากแล้ว ฮอร์โมนของความเครียดนี้ ยังจะไปยับยั้งการเจริญเติบโตของสมองลูกอีกด้วย เพราะสเตียรอยด์จากเปลือกหมวกไต จะเพิ่มระดับสูงขึ้นยามที่คนเราเกิดความ รู้สึกเครียดหรือถูกกดดัน และส่งผลกระทบโดยตรงต่อการสร้างสมองส่วนเส้นใยประสาท ทำให้ระดับเชาวน์ปัญญาของลูกลดต่ำลงในที่สุด กระตุ้นลูกในครรภ์ หายใจลึก ๆ เข้าไว้ […]
อาหารบำรุงผิวสวยของลูกน้อยขณะตั้งครรภ์

เรื่องอาหารการกินคุณแม่ตั้งครรภ์ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะละเลยไม่ได้เป็นอันขาด เพราะเมื่อตัวคุณแม่ได้รับสารอาหารไปบำรุงผิวที่ดีแล้วนั้นก็ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพต่อตัวลูกน้อยตามไปอีกด้วย อาหารบำรุงผิวสวยของลูกน้อยในขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ เนื้อปลา นอกจากคุณประโยชน์ของโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ในเนื้อปลา จะช่วยบำรุงสมองและพัฒนาการลูกน้อยแล้วยังสามารถช่วยปกป้องและซ่อมแซมเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี อาทิ ปลาแซลมอน ปลาช่อนนึ่ง ปลากะพง เป็นต้น ควรรับประทานเป็นประจำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ผักผลไม้ต่าง ๆ เพราะในผักจะประกอบไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ ที่จะช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น อาทิ ฟักทอง บรอกโคลี แครอท มะเขือเทศ กล้วย ส้ม ฝรั่ง องุ่น มะละกอ ทับทิม เป็นต้น โดยเลือกกินผักผลไม้สด ๆ แบบปลอดสารและยาฆ่าแมลง ธัญพืชหลากหลายชนิด เช่น น้ำเต้าหู้ ข้าวกล้อง เมล็ดถั่ว ลูกเดือย งาขาว งาดำ อันอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินที่ช่วยบำรุงผิวให้สวยเปล่งปลั่งได้แถมยังมีไขมันน้อยด้วยล่ะค่ะ ดื่มน้ำเปล่าและน้ำผลไม้สดมาก ๆ เป็นที่รู้กันว่าในน้ำผลไม้จะมีวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยสดใสอยู่มาก อย่างการดื่มน้ำมะพร้าวทุกวัน วันละ 1 […]
อาการข้างเคียงจากการตั้งครรภ์และวิธีแก้ไข

อาการข้างเคียงจากการตั้งครรภ์และวิธีแก้ไข ส่วนใหญ่แล้วว่าที่คุณแม่ทั้งหลายมักไม่ค่อยมีปัญหาน่าหนักใจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์นัก สามารถคลอดบุตรออกมาได้ทารกที่มีสุขภาพดี นอกจากจะมีอาการแพ้หรืออาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นตามปกติ เช่น อาเจียน คลื่นไส้ ปวดหลัง หรือแสบร้อนที่หน้าอก (Heartburn) อาการดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อทารกในครรภ์แต่อย่างใด แต่อาการที่ว่านี้ผู้อื่นก็ไม่สามารถรู้สึกหรือเห็นได้ชัด จึงมักไม่ได้รับความสนใจหรือเห็นอกเห็นใจเท่าไหร่นัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องอดทนกับอาการที่น่ารำคาญนี้ มีหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายขึ้นจากอาการดังกล่าวและสามารถมีความสุขได้ตลอดการตั้งครรภ์ ต่อไปนี้เป็นคำอธิบายว่าทำไมปัญหาของอาการข้างเคียงจากการตั้งครรภ์ต่างๆ ที่รบกวนคุณในเวลาตั้งครรภ์จึงเกิดขึ้น และ เสนอคำแนะนำในการแก้ปัญหาที่เหมาะสม แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์นี้ด้วยตัวเอง คุณควรปรึกษา, ตรวจสอบกับหมอสูติประจำตัวคุณเสียก่อนเพื่อให้แน่ใจว่า ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับการตั้งครรภ์ และยังไม่ต้องเข้ารับการรักษาอย่างเป็นทางการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปัญหาของอาการข้างเคียงจากการตั้งครรภ์ต่างๆ ที่รบกวนในเวลาตั้งครรภ์ อาการปวดท้อง (Abdominal Pain) สาเหตุ: เนื่องจากข้อต่อซึ่งรองรับมดลูกได้ยืดตัวออก คุณจึงประสบกับอาการปวดเมื่อยด้านข้างของท้อง การแก้ไข: พยายามนวดอย่างเบาๆ ในบริเวณที่ปวด ด้วยฝ่ามือโดยเคลื่อนไหวฝ่ามือช้าๆ และใส่กางเกงsupport ท้องที่เรียกว่ากางเกงพยุงครรภ์ จะสามารถช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ แต่ถ้าคุณมีอาการปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ คุณควรรีบปรึกษาแพทย์หรือหมอสูติประจำตัวโดยเร็ว อาการปวดหลัง (Backache) สาเหตุ: ข้อต่อกระดูกต่างๆ มีการหย่อนตัวมากขึ้นและการอยู่ในท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้คุณมีอาการปวดหลังมากยิ่งขึ้น แก้ไข: ปรับตัวให้อยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง – ยืนตัวตรงๆ และใช้หมอนหนุนหลังเมื่อนั่ง และก้มลงเก็บของโดยให้หลังตรง คือยืนให้น้ำหนักลงที่เท้าทั้งสองข้าง ย่อตัวลงโดยงอข้อสะโพกและหัวเข่า พยายามรักษาระดับให้ใบหู […]